เกลือ เป็นของใกล้ตัวที่ทุกบ้านต้องมี แต่รู้มั้ยว่าเบื้องหลังเกลือเม็ดขาว ๆ เหล่านี้ มีภูมิปัญญาท้องถิ่นเก่าแก่ที่สืบทอดกันมายาวนานหลายชั่วอายุคน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เช่น สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครราชสีมา ที่ยังคงรักษา “การทำนาเกลือ” แบบดั้งเดิมไว้อย่างดี
ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการผลิตเกลือนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของการนำดินใส่น้ำเค็มแล้วปล่อยแดดเผาให้ระเหย แต่ยังมีการเลือกพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม เช่น ดินเหนียวที่อุ้มน้ำดี น้ำทะเลที่มีความเค็มพอเหมาะ และลมแรงที่ช่วยเร่งการระเหยได้ดี
เกลือที่ได้จะถูกเรียกว่า “เกลือทะเล” ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น
-
เกลือขาว ที่มักใช้ในครัวเรือน
-
เกลือดำ หรือเกลือหยาบ สำหรับใช้เลี้ยงสัตว์หรืออุตสาหกรรม
-
เกลือสินเธาว์ ที่พบในพื้นที่ภาคอีสาน เช่น สกลนคร หรือมหาสารคาม ซึ่งเป็นเกลือที่มาจากชั้นหินใต้ดิน
หนึ่งในภูมิปัญญาน่าสนใจคือการ “ตากเกลือบนแผ่นดิน” ซึ่งชาวบ้านจะเตรียมพื้นที่โดยใช้แผ่นดินเรียบ ๆ ขุดเป็นบ่อเกลือ แล้วนำน้ำเกลือมาเทลงไป จากนั้นปล่อยให้แดดทำหน้าที่ระเหยน้ำออก เหลือไว้แค่เม็ดเกลือขาว ๆ ที่บริสุทธิ์ ขั้นตอนนี้ดูง่าย แต่ต้องใช้ความแม่นยำทั้งเรื่องเวลา อุณหภูมิ และสภาพอากาศ
จุดเด่นของการทำนาเกลือแบบดั้งเดิมคือ ความเป็นธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี ไม่ใช้เครื่องจักร ทุกขั้นตอนล้วนแต่ใช้แรงงานคน และความรู้จากรุ่นสู่รุ่น การทำเกลือแบบนี้ยังสะท้อนวิถีชีวิตพอเพียง การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ปัจจุบัน แม้จะมีการผลิตเกลือแบบอุตสาหกรรมเข้ามาแทนที่ในหลายพื้นที่ แต่หลายชุมชนก็ยังคงรักษาภูมิปัญญานี้ไว้ เพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญให้กับชาวบ้าน และสามารถต่อยอดเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น การพาชมการทำนาเกลือ ชิมอาหารพื้นถิ่น และซื้อเกลือแปรรูปกลับบ้าน
เกลือพื้นบ้านยังถูกนำไปใช้ประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น
-
การขัดผิวด้วยเกลือ
-
การหมักปลาหรือหมูแดดเดียว
-
การถนอมอาหารแบบโบราณ
-
ใช้โรยพื้นกันมดหรือแมลง
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากเห็นของจริง แนะนำให้ไปเยือน “นาเกลือบางตะบูน” จังหวัดเพชรบุรี หรือ “นาเกลือปากน้ำบางปะกง” ฉะเชิงเทรา ที่ยังคงเปิดให้เข้าชมและเรียนรู้วิธีการผลิตแบบดั้งเดิมได้
สุดท้ายนี้ ถ้าพูดถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องเกลือ เราไม่ได้พูดถึงแค่ “การผลิต” เท่านั้น แต่ยังพูดถึง “การถ่ายทอดความรู้” ที่เชื่อมโยงระหว่างคนกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน และเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยที่ควรรักษาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้